ยินดีต้อนรับ blogspot Pimporn จร้า

5 ก.พ. 2555

เรื่องที่ 16 ทำอย่างไรจึงจะเรียนอย่างมีความสุข

ทำอย่างไรจึงจะเรียนอย่างมีความสุข
หลักสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่า  "ทำให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องหวังผล"  เพราะตามหลักศาสนาพุทธ  การคาดหวังก็คือการยึดติด ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์อย่างหนึ่ง เพราะถ้าสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เราก็มีความทุกข์
ถ้าพูดถึงเรื่องผลของการเรียน ทุกคนก็คงนึกถึงเกรด  ในคณะแพทยศาสตร์ที่ผมทำงานอยู่นี้ จะใช้ระบบการตัดเกรดแบบอิงกลุ่ม ซึ่งก็คือ การพิจารณาจัดคะแนนของนักเรียนทั้งหมดออกเป็น A ถึง D โดยอาศัยค่าเฉลี่ยของคะแนนของนักเรียนทั้งหมดมาคำนวณ  ฉะนั้นสรุปง่ายๆ ก็คือ เกรดที่นักเรียนคนหนึ่งจะได้จะขึ้นอยู่กับคะแนนของเพื่อนทั้งชั้นปี ถ้าเขาทำคะแนนได้ดี แต่ค่าเฉลี่ยของกลุ่มออกมาสูงมาก เขาก็อาจจะได้เกรดไม่สูง แต่หากค่าเฉลี่ยออกมากลางๆ เขาก็อาจได้เกรดที่สูงขึ้น
ดังนั้นจึงตั้งคำถามว่า เราควรแล้วหรือที่จะไปคาดหวังกับเกรดที่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยตัวเราแต่เพียงฝ่ายเดียว มันจะดีหรือที่เราจะไปยึดติดกับสิ่งที่เกิดจากอิทธิพลของสิ่งอื่นๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ เราคงไม่สามารถไปควบคุมคะแนนสอบของคนอื่นๆ ได้แน่นอน  ฉะนั้นผมจึงเสนอว่าเราควรจะละจากการคาดหวังกับเกรด มาเป็นการวัดตัวเราเองอย่างแท้จริง แต่อะไรล่ะที่จะรู้จักตัวเราได้ดีไปกว่าตัวของเราเองนี่แหละ
ด้วยเหตุนี้จึงอยากแนะนำว่าเราควรวัดผลตัวเราตรงที่ว่าเราได้ทำดีเพียงพอในการเรียนหนังสือ การเตรียมสอบแล้วหรือยัง  ถ้าเราทำได้ดีของเราแล้ว ถ้าเกรดออกมาดี ก็ขอให้ภูมิใจว่าเป็นผลกรรมดีตอบแทน  แต่ถ้าเกรดออกมาไม่ดี ก็ให้ระลึกไว้เสมอว่า สิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากตัวเราเพียงฝ่ายเดียว หากแต่เกิดจากผลการสอบของคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของเรา  แล้วเราจะมัวไปผิดหวังโทษตัวเองทำไม?       แต่ทั้งนี้เราก็ต้องกลับมาพิจารณาตนเองด้วย ถ้าหากว่าขี้เกียจอ่านหนังสือ ไม่เข้าห้องเรียนบ่อยๆ  ไม่เคยทบทวนตำราเลย  ไม่เข้าใจอะไรก็ปล่อยๆ มันไป อย่างนี้แล้วคะแนนออกมาไม่ดี ก็ต้องปรับปรุงในสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ปล่อยเลยไปเพราะคิดว่าเกรดไม่ดี ก็คงเพราะคนอื่นๆ เขาเก่ง      
ข้อแนะนำนี้จึงใช้กับกรณีที่พยายามเต็มความสามารถแล้วแต่กลับไม่ได้ผลตามที่คาด   หวัง เราก็ยังมีความสุขได้  แต่ถ้ายังไม่ได้พยายาม ก็ต้องแก้โดยการพยายามมากขึ้น
แต่ก็อาจมีบางคนถามว่าแล้วพยายามแค่ไหนที่เรียกว่าเต็มความสามารถ แค่ไหนที่เรียกว่าทำดีที่สุดแล้ว  อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุคคลและสถานการณ์ คงไม่สามารถบอกเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวได้ แต่น่าจะใช้วิธี ทางสายกลาง เป็นแนวทางได้ ตัวอย่างเช่น  อ่านหนังสือโดยยังต้องแบ่งเวลาทำอย่างอื่นได้ด้วย เช่น พักผ่อน ทานอาหาร ออกกำลังกาย ไม่ใช่คร่ำเคร่งจนร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วย โดยเวลาที่แบ่งมาทบทวนเนื้อหานี้ บางคนอาจจะมีน้อยกว่าคนอื่น เช่น บ้านอยู่ไกลรถติด หรือต้องทำงานช่วยครอบครัว แต่ถ้าใช้เวลาอย่างคุ้มค่าก็ถือว่าทำเต็มที่แล้ว  หรือบางครั้งบางคนอาจเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมา ทำให้มีเวลาอ่านลดลง ก็ต้องถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ถ้าเราทำเต็มที่ในสถานการณ์หนึ่งๆ แล้วก็จงพอใจว่าดีพอแล้ว
สรุปว่า ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ที่มีอยู่ในสถานการณ์หนึ่งๆ ถ้าเราได้ทำดีที่สุดแล้ว ถึงผลการเรียนหรือเกรดจะออกมาไม่ดีอย่างที่คิด ก็จงอย่าไปทุกข์ผิดหวังกับมัน เพราะเราไม่สามารถไปควบคุมเหตุปัจจัยทั้งหมดได้  แต่จงมีความสุขว่าเราได้ทำดีเพียงพอแล้ว คนเราคงไม่สามารถทำดีกว่าดีที่สุดได้


เรื่องที่ 15 Linux คืออะไร ?



รู้จักกับลีนุกซ์
ลีนุกซ์ เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ ดอส ไมโครซอฟต์วินโดวส์ หรือยูนิกซ์ โดยลีนุกซ์นั้นจัดว่าเป็นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ประเภทหนึ่ง การที่ลีนุกซ์เป็นที่กล่าวขานกันมากขณะนี้ เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติการและโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบนระบบลีนุกซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU's Not UNIX) และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือระบบลีนุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free Ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อโปรแกรม
ระบบลีนุกซ์ตั้งแต่เวอร์ชั่น 4 นั้น สามารถทำงานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือบนซีพียูของอิลเทล (PC Intel) ดิจิตอลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer) และซันสปาร์ค (SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่าในขณะนี้ลีนุกซ์ยังไม่สามารถแทนที่ไมโครซอฟต์ วินโดวส์ บนพีซีหรือแมคโอเอส (Mac OS) ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่หันมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนลีนุกซ์กัน และเรื่องของการดูแลระบบลีนุกซ์นั้น ภายในระบบลีนุกซ์เองมีเครื่องมือช่วยสำหรับดำเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น

การนำลีนุกซ์มาใช้งาน
ปัจจุบันได้มีการนำระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ไปประยุกต์เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับงานด้านต่างๆเช่นงานด้านการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ใช้เป็นสถานีงาน สถานีบริการ อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต หรือใช้ใน การเรียนการสอนและการทำงิจัยทางคอมพิวเตอร์ใช้พัฒนาโปรแกรมเนื่องจาก มีเครื่องมือมากมาย เช่น โปรแกรมภาษาซี (C) ซีพลัสพลัส (C++) ปาสคาล (Pascal) ฟอร์แทรน (Fortran) ลิสป์ (Lisp) โปรล็อก (Prolog) เอดา (ADA) มีภาษาสคริปต์ เช่น เชลล์ (Shell) บาสช์เชลล์ (Bash Shell) ซีเชลล์ (C Shell) คอร์นเชลล์ (Korn Shell) เพิร์ล (Perl) พายตัน (python) TCL/TK
นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมประยุกต์ในสาขาต่างๆ อีกมากมาย โดยข้อมูลของโปรแกรมเหล่านี้ได้รวบรวมไว้


อนาคตของลีนุกซ์
ลีนุกซ์นั้นมีนักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันทำให้การขยายตัวของลีนุกซ์เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยในส่วนของแกนระบบปฏิบัติการ หรือเคอร์เนลนั้นจะมีการพัฒนาเป็นรุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทำงานแบบหลายตัวประมวลผลแบบ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทำให้ระบบลีนุกซ์สามารุนำไปใช้สำหรับทำงานเป็นเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ได้ และยังมีโครงการสนับสนุนการใช้งานบรระบบลีนุกซ์อีกหลายโครงการ เช่น KDE (The K Desktop Environment) และ GNOME (GNU Network Object Model Environment) ซึ่งจะช่วยพัฒนา desktop บนลีนุกซ์ให้สมบูรณ์เทียบเท่ากับ Windows 98 ของไมโครซอฟท์ และบรรดาบริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์ทางด้านระบบฐานข้อมูลชั้นนำ อย่างเช่น Informix, Oracle, IBM
DB2 ก็เริ่มให้มีสนับสนุนการใช้งานบนระบบลีนุกซ์ แล้วเช่นเดียวกัน
ก่อนที่จะทำการติดตั้งก็ต้องเตรียมความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน ระบบลีนุกซ์ต้องการฮาร์ดแวร์ที่มีคุณสมบัต ิขั้นต่ำสุดดังต่อไปนี้
1. หน่วยประมวลผลกลางของ Intel 80386 ขึ้นไป
2. หน่วยประมวลผลทางคณิตศาสตร์ มีหรือไม่มีก็ได้ เพราะระบบปฏิบัติการ Red Hat Linux ได้มีการจำลอง หน่วยประมวลผลทางคณิตศาสตร์ไว้ในระดับของเคอร์เนล (Kernel) แล้ว
3. หน่วยความจำอย่างน้อย 8 เมกะไบต์ แต่แนะนำให้มีอย่างน้อย 16 เมกะไบต์จะทำให้ระบบมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
4. ฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 101 เมกะไบต์ สำหรับการติดตั้งแบบพื้นฐาน 266 เมกะไบต์ สำหรับการติดตั้งแบบทั่วไป และ 716 เมกะไบต์ สำหรับการติดตั้งแบบทั้งหมดตัวเลขที่ระบุทั้งหมดเฉพาะส่วนระบบปฏิบัติการ ถ้าต้องการใช้เป็น File Server หรือ Database Server จะ ต้องเผื่อเนื้อที่ไว้สำหรับใช้งานด้วย ส่วนแหล่งของโปรแกรมลีนุกซ์นั้นสามารถหาได้ฟรีตามเว็บไซท์ เช่น www.linux.org/dist/ftp.html

สิ่งที่ควรทราบก่อนการติดตั้ง
1.            คุณสมบัติของฮาร์ดดิสก็ที่ต้องการติดตั้ง
§  จำนวนของฮาร์ดดิสก็ที่ต้องการติดตั้ง
§  ขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ที่จะใช้ในการติดตั้ง
§  ประเภทการเชื่อมต่อของฮาร์ดดิสก์ที่จะใช้ในการติดตั้ง IDE, EIDE หรือ SCSI
§  มีการใช้ประเภทการเชื่อมต่อของฮาร์ดดิสก์หลายๆ ประเภทในเครื่องเดียวกันหรือไม่
2.            ขนาดของหน่วยความจำหลัก เพื่อที่จะคำนวณหาขนาดของ Linux Swap Partition
3.            ประเภทการเชื่อมต่อของเครื่องอ่านซีดีรอม IDE (ATAPI), SCSI
4.            รุ่นและยี่ห้อของแผงวงจรเชื่อมต่อ SCSI
5.            รุ่นและยี่ห้อของแผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย
6.            จำนวนปุ่มกด และประเภทเชื่อมต่อของเมาส์
7.            รุ่นและยี่ห้อของแผงวงจรเชื่อมต่อจอภาพ รุ่นและยี่ห้อของจอภาพ
8.            รายละเอียดการกำหนดโปรโตคอล TCP/IP ของเครื่องที่ต้องการติดตั้ง
§  IP Address
§  Net Mask
§  GateWay Address
§  Name Server Address
§  Domain Name
§  Host Name







เรื่องที่ 14 ของขวัญวันวาเลนไทน์

ของขวัญวันวาเลนไทน์ ของขวัญที่นิยม ของขวัญแทนใจวันแห่งความรัก
ดอกไม้ ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด ที่ฮิตสุดเห็นจะเป็น
- กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ
- กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง
- กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด
- กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข
- กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
- กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น
สําหรับคนที่อยากได้อะไรแตกต่างยังมีดอกอื่นๆ อาทิ
- ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง,

- ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,
- ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน
และ
- ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน
ช็อกโกแลต นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก และรสชาติความหวานก็เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกวันแห่งความรักได้อย่างดี และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าในช็อกโกแลตมีสารช่วยกระตุ้นสมองโดยออกฤทธิ์คล้าย แอมเฟตามีน เป็นตัวเบิกทางความรู้สึกลึกๆแห่งรักได้ดี
การ์ด อันนี้เป็นของจําเป็นควบคู่ไปกับดอกไม้ และช็อกโกแลต เลือกตามแบบที่ชอบ เขียนความในใจตามแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในทันที แถมหาซื้อไม่ยากด้วย
ตุ๊กตา เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว แต่พิเศษสําหรับวันแห่งความรักคงต้องเลือกสรรให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์แล้วแต่คุณจะหยิบแบบไหน
เทียนหอม มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน
มื้อค่ำ ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ในบ้าน ร้านอาหาร หรือริมทะเล แต่ขอให้มีแต่คุณและคนรักไปกันสองคนก็แล้วกัน

เรื่องที่ 13

เรื่องที่ 12

17 ธ.ค. 2554

เรื่องที่ 11 คำศัพท์เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต

 คำศัพท์เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต
คำศัพท์ที่สำคัญ ในการศึกษาเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตที่ควรทราบ มีดังนี้
1. Website หมายถึง จำนวนไฟล์หรือจำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บไซต์นั้น ๆ

2. WebPages หมายถึง หน้าในแต่ละหน้าหรือไฟล์แต่ละไฟล์ที่ประกอบกันขึ้นรวม ๆ กันกลายเป็นเว็บไซต์

3. HomePage หมายถึง หน้าแรกของเว็บเพจทั้งหมดที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตจะพบเมื่อเข้าไปยังเว็บไซต์ หรืออาจจะกล่าวได้ว่าโฮมเพจเปรียบเสมือนสารบัญและคำนำที่เข้าของเว็บไซต์สร้างขึ้น นอกจากนี้โฮมเพจหนึ่ง ๆ อาจจะมีการเชื่อมกับเว็บเพจอื่นๆ อีกจำนวนมากได้

4. Webmaster หมายถึง บุคคลที่ทำหน้าที่วางแผน ดูแล บริหารและจัดการเว็บไซต์เพื่อให้เว็บไซต์นั้น ๆ บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้

5. ISP หมายถึง ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ย่อมาจาก Internet Service Provider

6. IP Address หมายถึง หมายเลขอินเทอร์เน็ตประจำเครื่อง หรือที่อยู่ของเครื่องที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เป็นเลขรหัสที่ต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ซ้ำกัน หมายเลขจะประกอบด้วยตัวเลขสี่กลุ่มตั้งแต่ 0 ถึง 255 โดยถูกคั่นด้วยเครื่องหมายจุด (.) ตัวอย่างเช่น 203.179.5.2 ซึ่งจำได้ยาก ดังนั้นจึงมีระบบชื่อคอมพิวเตอร์ตามมาตรฐานของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า DNS หรือ Domain Name System ซึ่งจตะสอดคล้องกับหมายเลขไอพี เช่น http://www.udru.ac.th เป็นต้น

7. Node หมายถึง จุดเชื่อมต่อเครือข่ายย่อย เป็นจุดเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่มีอยู่บนเครือข่ายแกนหลักจะมีเส้นทางการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแกนหลัก (Backbonen Node) อื่นๆ มากกว่า 1 เส้นทาง เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อในภูมิภาคนั้นๆ ศูนย์กลางระบบ, ศูนย์ประสาน, ศูนย์ภาค สถานนีแยกทั้งหมดนี้เป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับสถานีเครือข่ายแกนหลัก เป็นการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายในลักษณะสถานีเครือข่ายย่อยนี้

8. Network หมายถึง การนำเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องขึ้นไป มาเชื่อมต่อกัน เพื่อที่จะใช้ทรัพยากรของระบบร่วมกัน เช่น เครื่องพิมพ์, ฮาร์ดดิสก์ หรือต้องการส่งข้อมูลให้กับบุคคลอื่นในระบบใช้งานและเพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ เครือข่ายท้องถิ่น (LAN) และ เครือข่ายระยะไกล (WAN)

9. Internet หมายถึง การนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วโลก เป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของทั้งหมด ภายใต้มาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างที่กำหนด ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันได้อย่างอิสระทั่วโลก

16 ธ.ค. 2554

เรื่องที่ 10 ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต

ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
   ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเรา หลาย ๆ ด้าน ทั้งการศึกษา พาณิชย์ ธุรกรรม วรรณกรรม และอื่น ๆ ดังนี้
    ด้านการศึกษา
          -
สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ
          -
ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
          -
นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น

ด้านธุรกิจและการพาณิชย์
          
- ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
          -
สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
          -
ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน
          -
ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ ( Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี ( Freeware) เป็นต้น

ด้านการบันเทิง
          -
การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป           
         -
สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
         -
สามารถดึงข้อมูล ( Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้

สรุปได้ว่า อินเทอร์เน็ต มีความสำคัญ ในรูปแบบ ดังนี้
  • การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย
  • การติดต่อสื่อสารที่สะดวก และรวดเร็ว
แหล่งรวบรวมข้อมูลแหล่งใหญ่ที่สุดของโลก
         อินเทอร์เน็ต ได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานไอที ทำให้เกิดช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว ช่วยในการตัดสินใจ และบริหารงานทั้งระดับบุคคลและองค์กร